คลังบทความของบล็อก

การจัดสวนน้ำพุหน้าบ้านเสริมฮวงจุ้ย www.maannamdesign.com

จะมีหลักฮวงจุ้ยคล้ายๆกับการจัดสวนน้ำล้นหน้าบ้าน คือการดูทิศที่ตั้งของสวนหน้าบ้านเป็นหลักแล้วค่อยสร้างน้ำพุ หรือน้ำตกเข้าไปเพิ่มเติม ซึ่งเป็นถือว่าเป็นการเสริมโชคลาภความเป็นศิริมงคลต่างๆให้เพิ่งยิ่งๆขึ้นอีก

ตกแต่งสวน www.maannamdesign.com

การตกแต่งสวนที่ดีและถูกต้องนั้นทำได้ไม่ยาก สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่เราไม่ควรละเลยคือการดูแลให้ต้นไม้ ดอกไม้ หรือวัสดุต่างๆมีความสวยงาม สดใส สะอาด และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่เสมอ

รับออกแบบจัดสวน www.maannamdesign.com

การออกแบบจัดสวนนั้นจำเป็นจะต้องให้กลมกลืนและเสริมให้อาคารสถานที่นั้นสวยงามเด่นสง่า นอกจากด้านทฤษฎีหรือปฏิบัติแล้วจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์อย่างมากเพื่อให้สวนของคุณออกมาเพอร์เฟคและสวยที่สุด

ฮวงจุ้ยบ่อน้ำหน้าบ้าน www.maannamdesign.com

การวางน้ำพุหรือบ่อหน้ำหน้าบ้านตามศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นเป็นสิ่งที่ดีเสริมสิริมงคลและความรุ่งเรืองของบ้าน การจัดวางน้ำพุไว้หน้าบ้าน น้ำต้องอยู่ในลักษณะที่เคลื่อนไว ไม่หยุดอยู่นิ่งจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัย

สร้างบ่อปลาคาร์ฟ www.maannamdesign.com

บริเวณหน้าบ้านนั้นถือว่าเป็นจุดที่ทำให้บ้านของคุณดูน่าสนใจ น่ามอง และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ยิ่งปัจจุบันการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงามและส่งเสริมดวงชะตาได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รับออกแบบจัดสวน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รับออกแบบจัดสวน แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

สวนนั่งเล่นข้างบ้าน






การทำสวนหย่อมหน้าบ้านเพื่อเป็นที่นั่งเล่นเพื่อพักผ่อน ให้ความผ่อนคลายแก่ผู้ที่อยู่อาศัยนั้น ถือเป็นสิ่งที่หลายๆคนที่มีบ้านอยู่ใจกลางเมืองนั้นต้องการจะมี เพราะการมีสวนหย่อมและศาลานั่งเล่นนั้น จะสร้างบรรยากาศให้บ้านนั้นน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ด้วยสีเขียวของต้นไม้แล้วนั้นจะทำให้เกิดความสดชื่น แก่ผู้ที่พักอาศัย และที่สำคัญต้นไม้มีส่วนช่วยดูดซับมลพิษต่างๆที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ภูมิแพ้ ต่างๆได้

การออกแบบตกแต่งสวนที่มีศาลาที่พักข้างบ้านนั้น มีองค์ประกอบหลักต่างๆ ดังนี้
1. ศาลาและโต๊ะนั่งพักสำหรับนั่งพักผ่อนในร่ม ศาลามีหลายรูปแบบ มีทั้งแบบที่สร้างเอง และซื้อศาลาแบบสำเร็จรูป ศาลานั้นจะเป็นศาลาที่มีพื้นที่หรือศาลาแบบไม่มีพื้นใช้โต๊ะเก้าอี้วางไว้เพื่อนั่งก็ได้ บนศาลาจะติดโคมไฟเพื่อส่องสว่างตอนเย็น หรือติดพัดลมก็ได้เช่นกัน

2. ทางเดินรอบๆศาลา ทางเดินรอบๆศาลานั้นจะทำแค่เป็นทางเดินเดียว หรือทางเดินรอบศาลา (ใช้กับศาลาแบบเปิด 360๐ สามารถเข้าได้ทุกทาง) ทางเดินจะโรยด้วยหินประดับหรือแผ่นปูนแบบต่างๆก็ได้

3. สวนรอบๆศาลาจะมีการปูหญ้าต่างๆ เพื่อเพิ่มความความชุ่มชื่นแก่บ้าน ลดแสงสะท้อนจากแสงแดด ดูซับน้ำฝน ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าฟลอริด้า หญ้าแพรก หญ้ากำมะหยี่ เป็นต้น

4. ปลูกต้นไม้ต่างๆ รอบๆบริเวณ การปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงากับสวนหย่อม เพื่อให้ศาลาที่นั่งนั้นมีร่มเงาให้มีที่นั่งได้ การเลือกต้นไม้เพื่อใช้เป็นร่มเงานั้นควรใช้พรรณไม้ยืนต้น เช่น เสลา ตะแบกนา กุ่มบก จามจุรี ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ อินทนิลบก เป็นต้น ส่วน หูกระจง ไทร หูกวาง หางนกยูงฝรั่ง ไม่ควรน้ำมาปลูกหรือหลีกเลี่ยงการนำมาปลูกใกล้ๆบริเวณบ้าน เนื่องจากกิ่งไม้เปราะหักง่าย เป็นอันตรายอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน และบางชนิดจะมีรากที่เยอะและชอนไช เข้าไปในบ้านหรือกำแพงบ้าน ทำให้เกิดการร้าวของกำแพงหรือผนังบ้านได้

การดูแลศาลาสวนและศาลาที่นั่งข้างบ้านนั้น ต้องหมั่นดูแล ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ ไม่ให้กิ่งก้านเลยข้ามบ้านข้างๆ เพราะหากใบไม้หรือกิ่งไม้อาจจะตกไปจะทำให้รบกวนหรือทำให้เกิดความเสียหายต่อเพื่อนบ้านได้ และเพื่อป้องกันกาหักโค่นของกิ่งไม้เมื่อเกิดพายุลมแรง ที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบ้าน และควรตัดหญ้าในสวนหย่อมอยู่เป็นประจำ เพราะหากหญ้ายาวเกินไปจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ การใส่สารกำจัดปุ๋ยบำรุงต้นไม้ต่างๆ ควรใส่ในขนาดที่พอเหมาะ ซึ่งปุ๋ยบางชนิดอาจก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองต่อมนุษย์ได้เช่นกัน

สวนประดิษฐ์กับม่านน้ำตก







สวนประดิษฐ์ เป็นสวนที่เหมาะกับสถานที่ที่มีเนื้อที่กว้างๆ เช่น ตามหน้าทางเข้าอาคารสำนักงาน วัด หรือสวนสาธารณะต่างๆ เป็นต้น สวนแบบประดิษฐ์จะให้ความสำคัญกับการจัดวางสิ่งและการตกแต่ง การประดับประดาต้นไม้ต่างๆ ให้มีความสมดุล เท่ากันทั้งซ้ายและขวา นิยมทำให้อยู่ในรูปแบบเลขาคณิต เพราะง่ายต่อการจัดวางสิ่งของประดับรอบๆสวน การน้ำต้นไม้มาประดับก็จะนิยมใช้ต้นไม้ที่ดูแลง่าย ตัดแต่งกิ่งง่าย เช่นกัน การจัดสวนแบบประดิษฐ์นี้ จะไม่นิยมให้ต้นไม้เจริญเติบโตไปเองเรื่อยๆ ต้องค่อยตัดแต่งกิ่ง และยึดถือแบบแปลนที่ออกแบบมาเป็นสำคัญ ต้องคอยจัดให้อยู่ในรูปแบบเดิมตั้งแต่ต้น สวนแบบประดิษฐ์จะเน้นการออกแบบที่ดูหรูหรา สง่างาม มากกว่าที่จะให้การเน้นให้เป็นธรรมชาติ

สวนแบบประดิษฐ์ในปัจจุบันนี้มีการย่อขนาดลงมาให้เล็กลง เพื่อที่จะสามารถนำมาประดับตรงทางเข้าหน้าบ้าน หรือหน้าทางเข้าสำนักงานที่มีพื้นที่ที่ไม่มากนัก สวนแบบประดิษฐ์สามารถน้ำ น้ำพุ น้ำล้น น้ำตก ม่านน้ำตกต่างๆ มาประดับไว้ได้เช่นกัน ดังเช่น ต้องการออกแบบสวนประดิษฐ์ที่มีม่านน้ำตกด้วย ก็สามารถทำได้ โดยการออกแบบวัดเนื้อที่สำหรับการออกแบบตกแต่งสวนทั้งหมด เลือกซื้อม่านน้ำตกแบบต่างๆ แต่ม่านน้ำตกที่จะใช้นั้นจะต้องเป็นแบบประดิษฐ์ด้วย กล่าวคือ ม่านน้ำตกที่จะเลือกใช้จะต้องมีความสมดุลทั้งซ้ายและขวาจะต้องเท่ากัน เมื่อได้แล้ว ก็น้ำม่านน้ำตกนั้นมาตั้งไว้ตรงกลางของสวนแล้วจึงนำต้นไม้และของตกแต่งต่างๆมาประดับตกแต่ง การเลือกซุ้มไม้มาประดับที่น้ำตก อาจจะเลือกแบบที่มีขายสำเร็จรูปเลยก็ได้ แต่ซุ้มไม้จะต้องมีรูปแบบลวดลายทั้งซ้ายและขวาที่เท่ากัน การนำต้นไม้มาตกแต่งนั้นควรนำไม้พุ่ม และไม้เลื้อยที่ดูแลรักษาง่ายมาประดับ เช่น พลูด่าง วาสนาอธิฐาน เศรษฐีไซ่ง่อน ซุ่มกระต่ายด่าง เขียมหมื่นปี เฟิร์นบอสตัน จั๋ง แก้ว โมก เป็นต้น

การจัดสวนแบบประดิษฐ์นั้น ไม่ใช่เรื่องยากและก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แค่มีความรูปความเข้าใจและความเอาใจใส่สวนเมื่อจัดสวนเสร็จ เพราะการจัดสวนแบบประดิษฐ์นี้จะต้องคอยตัดแต่งกิ่งต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และอยู่ตำแหน่งของต้นไม้ทั้งสองข้างจะต้องมีความสมดุลและเท่าเทียมกัน การดูแลสวนประดิษฐ์นี้ ก็เหมือนการดูแลสวนทั่วใบ ที่ต้องหมั่นรดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดม่านน้ำตก และตรวจเช็คปั้มน้ำให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ แต่ที่แตกต่างกันที่สุดคือ ตั้งตัดแต่งกิ่งต้นไม้ทั้งสองข้างให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ขนาดเดียวกัน การจะสร้างสวนประดิษฐ์นั้น หากเจ้าของไม่สามารถที่จะออกแบบ หรือยังไม่มีแบบก็สามารถจ้างทีมงานออกแบบ จัดสวน หรือปรึกษาทีมงานออกแบบตกแต่งสวนก่อนได้ 

ตกแต่งสวนและสระน้ำหน้าบ้าน






ตามความเชื่อโบราณและศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้น มีความเชื่อว่า บ้านใดที่มีน้ำอยู่หน้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ลำธาร ใหญ่น้อยๆต่างๆ ไหลผ่านหน้าบ้าน จะเป็นศิริมงคลอย่างมาก จะส่งเสริมให้ผู้คนที่อาศัยนั้นมีความเจริญก้าวหน้า มีความมั่นคง มีความมั่งคั่งทางการเงิน เงินทองไหลเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากตามความเชื่อนั้น น้ำเป็นตัวสะสมพลังงาน และทรัพย์สมบัติ ดังนั้นหากใครที่ได้สร้างบ้านตามริมแม่น้ำต่างๆ จะเป็นผู้ที่โชคดีและมีบารมีอย่างยิ่ง แต่ในปัจจุบันนี้ การสร้างบ้านริมแม่น้ำนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ดังนั้นผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยๆต่างๆ จึงนิยมสร้างบ่อน้ำ สระน้ำ น้ำพุ น้ำตก น้ำล้นต่างๆไว้หน้าบ้าน เพื่อความเป็นศิริมงคลเช่นกัน

  การสร้างสระน้ำหน้าบ้านนั้น ส่วนมากจะนิยมทำในรูปทรงเลขาคณิต เช่น ทรงสี่เหลี่ยม วงกลม หรือวงรี เป็นต้น ขนาดของสระน้ำหน้าบ้านนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านว่าต้องการสระน้ำใหญ่หรือเล็กขนาดไหน ส่วนมากจะสร้างให้เหมาะสมกับขนาดบริเวณบ้านไม่ใหญ่หรือน้อยเกินไป เพื่อจะได้นำที่ว่างที่เหลืออยู่นั้นไปทำเป็นสวนขนาดเล็กเพื่อเอาไว้ทำกิจกรรมต่างๆในวันหยุด หรือช่วงเย็นๆของวันทำงาน การได้นั่งพักผ่อนในสวนนั่นถือเป็นการผ่อนคลาย ทำให้หายเครียดจากงานที่ทำอยู่ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธรรมชาติบำบัด สำหรับคนที่มีบริเวณบ้านที่ไม่กว้างมากนัก อาจจะไม่จำเป็นต้องสร้างสระที่มีขนาดใหญ่ แค่สร้างเล็กๆ พอที่จะสามารถนำเท้าลงไปแช่ให้พอหายเมื่อยก็ได้ ส่วนการตกแต่งสวนรอบๆสระน้ำนั้นสามารถทำได้ ฝั่งที่ติดกับรั้วบ้านนั้นอาจจะน้ำหญ้ามาปลูกพืชคลุมวัชพืชได้ เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้ากำมะหยี่ หญ้าฟลอริดา หญ้าแพรก หญ้านวลจันทร์ เป็นต้น ฝั่งด้านหน้าของสระทำเป็นที่นั่งๆ ไว้นั่งริมสระ อาจจะใช้การปูพื้นแบบไม้ปาเก้ ก็ได้ ส่วนฝั่งก็ปลูกต้นไม้ผสมกับการทำสวนหินๆ โดยเลือกปลูกพรรณไม้พุ่ม ที่มีขนาดเล็กสามารถตัดแต่งกิ่งได้ง่าย เช่น เข็มต่างๆ มะขามเทศด่าง โยทากา กาลง โมก หรือแก้ว เป็นต้น อาจจะมีการเสริมไม้ดอกเข้าไปเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่สวนก็สามารถทำได้

การออกแบบตกแต่งสวนและสระน้ำหน้าบ้านนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเจ้าของบ้านว่าต้องการออกแบบตกแต่งไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้าน ไว้เพื่อเป็นมุมพักผ่อน หรือไว้เพื่อตอนรับแขก พบปะสังสรรค์ วัตถุประสงค์ในการสร้างนี่แหละจะเป็นตัวกำหนดว่า เราควรจะสร้างออกมาในลักษณะใด และสามารถตัดสิ่งใดที่ไม่ค่อยจำเป็นออกไปได้ ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดงบประมาณในการออกแบบและตกแต่งสวนนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

สวนหย่อม มุมพักผ่อนข้างบ้าน






  สวนหย่อม คือสวนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หรือหลังเลิกงาน ใช้เป็นลานกิจกรรมสำหรับทุกคนในครอบครัว เป็นสถานที่ที่มีความผ่อนคลาย ด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่นำวางจัดเรียงตามๆ ทำให้เสมือนว่าคุณนั้นได้อยู่ในธรรมชาติจริงๆ โดยที่ไม่ต้องไปไหนไกลๆ

การสร้างสวนหย่อมนั้น เริ่มจากการคำนวณพื้นที่ที่จะสร้าง ทิศทางของแสง ลม และน้ำ สังเกตลักษณะดินในพื้นที่ที่จะสร้างด้วย ว่าเป็นดินแบบใด เพื่อที่จะได้เลือกต้นไม้ทาปลูกได้เหมาะสม จากนั้นทำการวางแปลนออกมาว่าต้องการจัดอะไรไว้ตรงไหนตามองค์ประกอบของสวนหย่อม องค์ประกอบหลักของสวนหย่อมนั้น มี 3 องค์ประกอบด้วยกันดังนี้

1. ไม้ประธาน ไม้ประธานคือต้นไม้ที่คุณต้องการให้เป็นจุดเด่นที่สุดในสวน อาจจะเป็นไม้ที่มีขนาดสูงก็ได้ เช่น สนบลู ปรง ปาล์ม ไผ่ญี่ปุ่น ไทรใบเล็ก เป็นต้น

2. ไม้รองประธาน คือไม้ที่มีขนาดเล็กลงมาจากไม้ประธาน ส่วนมากนิยมใช้ไม้พุ่มต่างๆ เช่น แก้ว โมก เข็ม ยี่โถ พุฒซ้อน พุฒฝรั่ง อังกาบ หลิวไต้หวัน โกสน วาสนา ลิ้นมังกร เป็นต้น หรืออาจจะใช้ไม้ประดับ เพื่อเพิ่มสีสันให้แก่สวนก็ได้ เช่น สับปะรดสี แววมยุรา เดหลี เยอบีร่า กล้วยไม้ เป็นต้น

3. ไม้คลุมดิน หรือพืชคลุมดิน พืชคลุมดินเป็นพืชที่ป้องกันวัชพืช ไม่ใช้ขึ้นมาในสวนเรา พืชคลุมดินที่พูดถึงนี้คือ หญ้าชนิดต่างๆ เช่น หญ้าญี่ปุ่น หญ้าแพรก หญ้าฟลอริดา หญ้ากำมะหยี่ หญ้านวลจันทร์ เป็นต้น

       จากที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่องค์ประกอบหลักของสวนหย่อมที่ควรจะมีเท่านั้น สวนหย่อมยังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีก เช่น น้ำพุ น้ำล้น รูปปั้น โขดหินต่างๆ โต๊ะ เก้าอี้ ร่ม ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของบ้านว่าต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปบ้าง หรือถ้าหากสวนหย่อมนั้นอยู่ติดกำแพง ก็สามารถน้ำไม้พุ่มไปวางไว้ หรือปลูกไม้เลื้อย เช่น อัญชัน พวงชมพู สายน้ำผึ้ง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กำแพงนั้นดูกลมกลืนกับสวนของเรามากที่สุด ไม่ไม่เหมือนเป็นกรอบที่กันพื้นที่ไว้

       การดูแลรักษาสวนหย่อมนั้น คือ หากมีน้ำพุหรือบ่อน้ำในสวนหย่อมต้องหมั่นทำความสะอาดเก็บกวาดเศษใบไม้ต่างๆที่ร่วงลงมา หมั่นตัดหญ้า เพื่อไม่ให้หญ้านั้นสูงเกินไป จะกลายเป็นที่รกร้าง จนกลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ ค่อยตัดแต่งกิ่งต้นให้ให้ได้รูปทรง และเพื่อกันไม่ให้กิ่งก้านสาขาขยายไปรบกวนเพื่อนบ้าน และเพื่อป้องกันหากเกิดพายุลมแรง กิ่งก้านต้นไม้นั้นจะไม่หักโค่นใส่บ้านทำให้ได้รับความเสียหาย สุดท้ายนี้หมั่นดูแลรดน้ำให้ความชุมชื่นกับสวนหย่อม ใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้บ้าง เพราะต้นไม้บ้างต้นก็ต้องการบำรุงดูแลรักษา ต้องการแร่ธาตุ เหมือนกับร่างกายของมนุษย์เราเช่นกัน 



วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ทางเดินในสวนหิน




การออกแบบตกแต่งสวนคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า แม่หญ้า ต้นไม้ น้ำตก น้ำพุ น้ำล้นต่างๆ แต่การจัดสวนในปัจจุบันนี้ไม่จะเป็นต้องมีแค่หญ้า ต้นไม้เล็กใหญ่ต่างๆ เท่านั้น การออกแบบตกแต่งสวนนั้นยังสามารถนำหินมาทำเป็นสวนได้ด้วย บางคนอาจจะสงสัย และไม่เข้าใจว่าจะทำได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบแน่นอน

การออกแบบตกแต่งสวนด้วนหินประดับนั้น เป็นการออกแบบตกแต่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลสวนสักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ต้องมาคอยทำความสะอาด และไม่ต้องมาคอยตัดหญ้า แต่ก็สามารถมีสวนสวยได้ การออกแบบตกแต่งสวนหินในบริเวณบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร สามารถทำเองได้ หรือหาต้องการได้สวนหินสวยๆ ได้คุณภาพนั้น และไม่อยากเหนื่อยกันการยกหินจำนวนมาก ก็สามารถเลือกจ้างทีมงานออกแบบสวนให้ทำแทนได้เช่นกัน

ขั้นตอนและวิธีการจัดสวนหินและทางเดินในสวนหินนั้นมีดังนี้
1. วางแผนและออกแบบสวนที่ต้องการ โดยอาจจะค้นหาแบบจากหนังสือหรือจากอินเตอร์เน็ต และวางโครงร่างคร่าวๆ

2. เตรียมพื้นที่ในการจัดสวน เริ่มจากปรับดินโดยการนำทรายมาเท ให้มีความเท่ากันไม่ลาดเอียงหรือเป็นแอ่ง เพื่อให้ง่ายต่อการระบายน้ำเวลาฝนตก เว้นระยะในส่วนของทางเดินให้พอดี อาจจะทำให้เป็นที่นูนขึ้นมาสักเล็กน้อยก็ได้ และรดน้ำให้พอชุ่ม

3. วางแผ่นพลาสติกที่มีรูลงไปทับทรายที่เรารดน้ำไว้ เพื่อกันระหว่างหินประดับที่เราจะนำไปวาง เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาเราวางหินลงไปแล้วหินจะจมลงไปไม่เท่ากัน

4. วางแผ่นปูนทางเดิน แผ่นปูนทางเดินที่เราจะวางลงไปนั้น มีรูปแบบมากมายให้เลือก อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล บางท่านอาจจะชอบแบบที่มีสีเดียวกับหินที่วาง หรือบางท่านอาจจะชอบแบบที่มีสีตัดกันก็ได้

5. โรยหินลงไปตามจุดต่างๆที่เหลือ ความหนาบางแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน และงบประมาณในการซื้อหินประดับนั้นๆ

     ปัจจุบัน การทำสวนหินนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสวนหินนั้นสามารถดูแลรักษาง่ายกว่าสวนหญ้าต่างๆ และการหาซื้อหินประดับนั้นสามารถหาซื้อได้ง่ายพอๆกับการหาซื้อต้นไม้และหญ้า ซึ่งแน่นอน หินจากกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ก็ถูกนำมาวางขายให้เราได้เลือก โดยที่ไม่ต้องขับรถไปซื้อไกลถึงถิ่นขายหิน อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและค่าน้ำมันรถอีกด้วย ราคาของหินก็จะมีราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท เช่น หินกรวด มีราคาประมาณ 100-150 บาทต่อถุง หรือจะเป็นหินประกอบ มีราคาประมาณ 200 บาทขึ้นไป เป็นต้น  



จัดสวนสวยริมรั้วบ้าน





การออกแบบตกแต่งสวนริมรั้วบ้าน เพื่อให้เป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจในวันสบายๆนั้นสามารถทำได้หลายแบบ การจัดสวนนั้นสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ การจัดสวนนั้นแบ่งออก เป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ การจัดสวนแบบประดิษฐ์ หรือการจัดสวนแบบโมเดิร์น คือ การจัดสวนที่มีความสมดุลกัน ทั้งซ้ายและขวา การจัดสวนลักษณะนี้มันจะมีรูปทรงเป็นแบบเลขาคณิต และการจัดสวนแบบธรรมชาติ เป็นการจัดสวนในรูปลักษณ์อิสระ ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก เช่น การจัดสวนแบบสวนป่า การจัดสวนแบบญี่ปุ่น การจัดสวนแบบบาลี เป็นต้น การออกแบบตกแต่งสวน ไม่มีคำว่าผิดหรือถูก ขึ้นอยู่ความชอบของแต่ละบุคคล การตกแต่งสวนนั้นสามารถนำรูปแบบการตกแต่งสวนทั้งสองรูปแบบนั้นมาผสมผสานกันได้ ซึ่งจะถูกเรียกว่าการจัดสวนแบบผสม

การออกแบบตกแต่งสวนแบบผสมผสานนี้จะเริ่มจากการ ทำน้ำตกจากผนัง โดยการเลือกซื้อน้ำตกจากผนังแบบสำเร็จรูป หรือจะสร้างเองก็ได้ โดยเลือกน้ำตกแบบประดิษฐ์ คือ มีขนาดตำแหน่งของน้ำตกเท่ากันทั้งซ้ายและขวา ส่วนบ่อรับน้ำตกนั้น จะวางน้ำผุดไว้ตรงกลางและประดับตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำ เช่น บัว กระจับญี่ปุ่น คล้าน้ำ ลาไพลิน หรือจอกน้ำ เป็นต้น และอาจจะมีการประดับไฟไว้ใต้น้ำตรงจุดที่น้ำตกลงมาทั้งซ้ายและขวาก็ได้ ส่วนขอบบ่อรับน้ำอาจจะน้ำตุ๊กตารูปสัตว์ต่างๆมาวางไว้สักข้างละ 2-3ตัว จะทำให้ดูมีความน่ารักไปอีกแบบหนึ่ง ส่วนบ่อพักน้ำนั้นจะกั้นด้วยผนังน้ำตก มีช่องให้น้ำไหลไปพักไว้ข้างหลังทั้งซ้ายและขวา โดยจะมีตะแกรงกั้นอยู่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันสิ่งสกปรกไม่ให้ไหลเข้าไปที่บ่อพักน้ำได้ รอบๆบ่อจะปลูกไม้พุ่มเล็กๆไว้รอบๆ เช่น คุณนายตื่นสาย เข็ม โกสน เล็บครุฑ หรือเฟิร์น เป็นต้น  หลังจากได้สวนแบบประดิษฐ์แล้ว เราจะนำสวนแบบธรรมชาติเข้าไปผสมด้วยการ ปลูกหญ้าคลุมดินต่างๆ และทำทางเดินเล็กๆข้างๆสวนประดิษฐ์ โดยมีการปลูกไม้ดัด ที่สามารถตัดแต่งกิ่งเป็นรูปต่างๆได้ และมีการน้ำไม้ริมน้ำมาปลูกไว้ข้างๆ เช่น ก้ามปู มหาหงส์ เตย พุทธรักษา เป็นต้น จากนั้นสามารถนำโคมไฟมาประดับเพื่อเพิ่มความสว่างและความสวยงามในเวลากลางคือได้

การดูแลสวนแบบผสมนี้อาจจะต้องเพิ่มความดูแลเอาใจใส่มากหน่อย นอกจากจะต้องหมั่นดูแลระบบน้ำจากน้ำตกและระบบไฟส่องสว่างแล้ว ต้องหมั่นดูแลตัดหญ้า เพื่อป้องกันไม่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ ต้องหมั่นดูแลรดน้ำ ใส่ปุ้ยต้นไม้ต่างๆนี้ด้วย 

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้ำพุหน้าป้ายสำนักงาน







การทำน้ำพุหน้าป้ายสำนักงานนั้น เป็นสิ่งที่นิยมกันมากในหมู่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากการทำป้ายสำนักงานนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ เป็นที่ดึงดูดความสนใจ มีแต่คนอยากจะเข้ามาติดต่อ เนื่องจากป้ายนั้นเสมือนสิ่งที่สะท้อนถึงรสนิยม และความมั่งคั่งต่างๆ  ปัจจุบันการตกแต่งป้ายสำนักงานนั้นเป็นที่นิยมกันมาก ยิ่งป้ายมีความสวยงามมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นที่ดึงดูดความสนใจ ง่ายต่อการสังเกต และง่ายต่อการค้นหา

การออกแบบตกแต่งน้ำพุหน้าป้ายสำนักงานนั้น ตัวป้ายสำนักงานนิยมนำหินอ่อนมาทำเป็นพื้นป้าย และน้ำตัวอักษรโลหะมาติดไว้บนหินอ่อนอีกที่หนึ่ง ซึ่งจะทำให้ป้ายดูมีมิติขึ้นมา นอกจากนั้น ยังได้มีการประยุกต์ ตกแต่งป้ายหน้าสำหนักงานด้วยการจัดสวนน้ำพุไว้ข้างหน้าป้าย ซึ่งการทำสวนน้ำพุไว้ข้างหน้าป้ายสำนักงานนั้น ส่วนหนึ่งมากจากหลักความเชื่อทางฮวงจุ้ยที่ว่า น้ำเป็นตัวเรียกทรัพย์ ทำให้กิจการรุ่งเรือง เงินทองไหลเวียนเข้ามามากมาย การตกแต่งน้ำพุหน้าป้ายสำนักงานนั้นนิยมทำแบบเป็นขั้นๆ กล่าวคือ ทำน้ำพุไว้ข้างบนและให้น้ำไหลลงมาบ่อข้างล่างอีกขั้นหนึ่ง ทั้งนี้บ่อข้างล่างนี้จะใช้เป็นบ่อพักน้ำนั่นเอง ระหว่างขั้นน้ำพุกับบ่อพักน้ำนั้นอาจจะใช้หินแทรกออกมาคล้ายๆน้ำตกก็ได้ ทั้งนี้หินนี้ก็สามารถช่วยกรองสิ่งสกปรกได้ขั้นหนึ่ง ส่วนการประดับตกแต่งรอบๆนำพุนั้น ควรนำพรรณไม้พุ่งเล็กมาวางไว้ เพื่อปิดฐานบ่อน้ำทำให้ดูสวยงามมากขึ้น ส่วนพรรณไม้นั้น ควรใช้พรรณไม่ที่สามารถตัดแต่งกิ่งได้ง่าย เช่น ต้นเข็มต่างๆ อังกาบ มะขามเทศด่าง หางนกยูงได้ หลิวไต้หวัน โกสน  เล็บครุฑ หูปลาช่อน เป็นต้น และควรมีการติดตั้งระบบไฟเพื่อส่องสว่างแก่ป้ายและน้ำพุ อาจจะใช้ไฟสีสั้นต่างๆใส่ไว้ในใต้น้ำ หรือเป็นสปอร์ตไลท์ เพื่อเพิ่มจุดเด่นในเวลากลางคืนด้วย

  การดูแลรักษาน้ำพุและป้ายสำนักงานนั้น ควรทำความสะอาดป้ายสำนักงานทุกวัน เพื่อให้ดูสะอาดหูสะอาดตา บ่งบอกถึงความใส่ใจ รักษาความสะอาด สำหรับน้ำพุควรมีการทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อกำจัดเศษฝุ่นผง และตะไคร้น้ำ ที่เป็นสาตุทำให้ท่ออุดตัน ถ้าหากมีการติดตั้งระบบไฟไว้ใต้น้ำ ควรหมั่นตรวจสอบสายไฟต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดไฟรั่ว และเกิดอุบัติเหตุจากการถูกไฟช๊อตได้ ส่วนพรรณไม้ที่นำมาตกแต่งนั้น ควรมีการตัดแต่งกิ่งอย่างน้อยสองอาทิตย์ต่อหนึ่งครั้ง เพื่อให้พรรณไม้นั้นไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษ และไม่ให้รกจนเกินไป เนื่องจากป้ายสำนักงานถือเป็นหน้าตา แสดงถึงภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นสิ่งแรกที่ผู้มาติดต่องานจะได้เห็นเป็นสิ่งแรกเมื่อมาติดต่องาน


วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รู้จักวัสดุจัดสวนและวัสดุจัดบ้าน




บ้านหนึ่งหลังมีหลายส่วนที่คุณต้องดูแล และจัดให้เข้าที่เข้าทางและต้องหมั่นทำความสะอาดทุกสัดส่วนให้ใหม่ เหมือนตอนสร้างบ้านครั้งแรกเสมอ แต่คงไม่บ่อยหนักที่คุณจะมีแขกมาเยี่ยมบ้าน การจัดตกแต่งบ้านนั้นไม่ได้มีวิธีการที่ซับซ้อนเลย คุณสามารถจัดตามจินตนาการของคุณได้เลย แต่ต้องคำนึกถึงความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย หรือบางคนจัดตามบ้านตามฮวงจุ้ยเพื่อจะได้เสริมโชคลาภ บารมีของคนในบ้านด้วย เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการจัดบ้านตามฮวงจุ้ย การจัดสวนตามฮวงจุ้ย แท้ที่จริงแล้วมาจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ยึดตามหลักธรรมชาติของลมและการไหลเวียนของลมนั้นเอง  
การจัดสวนในบ้านและการจัดบ้านต่างๆ คุณต้องคำนึกถึงคุณสมบัติต่างๆของวัสดุหรืออุปกรณ์ที่จะนำมาจัดสวนเสียก่อน เช่น คำนึกถึงขนาดว่าพอดีกับสวนหรือบ้านหรือไม่ ต้องไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป วัสดุอุปกรณ์ต่างๆนั้นมีวิธีการทำงานอย่างไร  แล้วต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ตัวไหนบ้าง เป็นต้น  บทความนี้จะกล่าวถึงหน้าที่และวิธีการทำงานของวัสดุและอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ 
  • สวนน้ำตก ก็หมายถึง น้ำตกที่ถูกสร้างขึ้นมาไว้ในสวนของบ้านคุณ จะมีลักษณะเหมือนขั้นบันได ขนาดจะขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านหรือพื้นที่บ้าน  การทำงานจะต้องพึ่งระบบน้ำที่ดี เพื่อการไหลเวียนน้ำขึ้น  สวนน้ำตกจะใช้พื้นทีค่อนข้างมาก ดังนั้น ควรศึกษาขนาดและความเป็นไปได้ของบ้านของคุณให้ดีเสียก่อน
  • สวนน้ำล้น หมายถึง สวนที่มีพืชใบเขียวต่างๆ ก้อนหิน  ทางเดิน  ดินกรวย และจุดเด่นของสวนก็คือ น้ำล้น นั้นเอง ลักษณะส่วนใหญ่ของภาชนะที่นำมาทำน้ำล้น จะเป็นรูปทรงเหมือนโอ่งน้ำ มีลักษณะเหมือนแก้วไวท์   ลักษณะการทำงานจะใช้พื้นที่น้อยกว่าสวนน้ำตก  บางที่จัดหม้อน้ำล้นหลายๆหม้อช้อนกันเพื่อความสวยงาม จะขึ้นอยู่กับไอเดียของการจัดสวนของแต่ละคนนั้นเอง
  • บ่อปลาคราฟ  ก็คือ แหล่งน้ำขนาดเล็กที่สร้างไว้ในบ้านเพื่อเลี้ยงปลาคราฟ บ่อปลาคราฟส่วนใหญ่จะทำมาจากปูนชีเมนต์ นั้นเพราะ จะสะดวกในการใช้งานต่างๆ  ไม่ว่าจะล้างทำความสะอาดบ่อปลา ลักษณะการทำงานของบ่อปลาคราฟจะทำงานเหมือนกับบ่อปลาทั่วๆไป บางทีก็ทำสวนน้ำตกพร้อมกับการทำบ่อปลาคราฟเลยก็ได้  เพราะ คุณสามารถใช้น้ำและบริเวณเดียวกันได้ 

นอกจากวัสดุการจัดสวนและการจัดบ้านดังที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้พูดถึง เช่น สระสปา สระจากุซซี่ น้ำตกจำลอง พืช ดอกไม้ ก้อนหินสี เป็นต้น

จัดสวนน้ำพุหน้าบ้านให้เป็นธรรมชาติ





การจัดสวนน้ำพุหน้าบ้านเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ซึ่งการจัดสวนน้ำหน้าบ้านนั้นจะต้องอาศัยความรู้ความชำนาญในการจัดแต่งสวนอยู่มาก บางท่านอาจจะจ้างช่างจัดสวนเลยแต่ก็อาจจะไม่ค่อยถูกใจเราเท่าไหร่ หากจะลองมือเองก็อาจจะไม่ถนัดมากนัก สำหรับน้ำพุที่ใช้จัดสวนนั้นมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มากๆ เช่น น้ำพุไม้ไผ่ น้ำพุบ่อน้ำ น้ำพุติดผนัง น้ำพุหินประดับ น้ำพุและสระขนาดใหญ่ เป็นต้น หลักการง่ายๆในการแต่งสวนน้ำพุหน้าบ้านดังนี้

1.สำรวจสถานที่ เพื่อเป็นการหาข้อมูลสภาพแวดล้อมและพื้นที่ใกล้เคียงที่เราจะจัดสวนว่า บริเวณนั้นมีสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างไร อากาศแห้งหรือชื้น สภาพดินเป็นดินร่วน ดินทราย หรือดินเหนียว บริเวณที่จะจัดสวนนั้นมีพื้นที่กว้างเพียงให้  และที่สำคัญคือทิศเหนืออยู่ทางด้านไหน เพราะหากรู้ทิศก็จะสามารถรู้ทิศทางของแสง จะทำสามารถกำหนดพรรณไม้ที่จะนำมาจัดคู่กับน้ำพุ และทิศทางของลม ที่จะสามารถกำหนดขนาดและความสูงของน้ำพุได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลมที่พัดเข้ามาจะไม่พัดละอองน้ำพุเข้ามาในบริเวณบ้าน

2.การเลือกซื้อพรรณไม้มาตกแต่งบริเวณน้ำพุ ควรเลือกพรรณไม้ที่ชอบน้ำพอสมควร เพราะถ้านำพรรณไม้ที่ไม่ชอบน้ำมาจัดสวนคู่กับน้ำพุแล้วอาจทำให้รากพรรณไม้เน่าและตายได้ พรรณไม้ที่ควรน้ำมาประดับในสวนน้ำพุได้แก่ กกอียิปต์ จอก กระจับแก้ว ลานไพลิน และพรรณไม้น้ำตระกูลบัวต่างๆ เป็นต้น 

3.ปรับที่ดินบริเวณสวนที่ต้องการจะจัดให้ได้ขนาดตามที่วางไว้ อาจจะใช้ปูนขาวโรยทำเป็นกรอบว่าต้องการวางอะไรตรงตำแหน่งไหน นอกจากที่จะปรับดินแล้วควรปรับพื้นที่ให้มีการระบายน้ำด้วย หากมีฝนตกจะสามารถระบายน้ำออกได้โดยไม่ทำให้น้ำขังในบริเวณสวน

4.การวางต้นไม้และวางน้ำพุ ควรวางสิ่งที่เราจะเน้นให้ความสำคัญมากที่สุดก่อน ในที่นี้เราควรวางน้ำพุเป็นอันดับแรกแล้วก็ตามด้วยไม้ที่มีพุ่มน้อยๆ ไปจนถึงต้นไม้ที่สูงขึ้นมาลำดับ จากตำแหน่งที่วางไว้คร่าวๆ ในตอนแรกนั้น หากไม่พอใจก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคลนั้นๆ

มนุษย์กับธรรมชาติอยู่คู่กับมานาน แต่ปัจจุบันธรรมชาติถูกทำลายไปมาก และเพื่อที่จะให้ได้ความรู้สึกเสมือนว่าตนได้พักอาศัยอยู่ในธรรมชาตินั้นจริงๆ เราสามารถสร้างสวนหย่อมเล็กๆไว้ในบ้าน เพื่อเป็นมุมพักผ่อนและใกล้ธรรมชาติที่สุด ซึ่งการจัดสวนน้ำพุหน้าบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยาก สามารถทำได้เอง หรือเชิญชวนสมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันออกแบบและตกแต่งสวน ก็จะเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย

สร้างมุมผ่อนคลายด้วยสระสปาจากุซซี่






นอกจากสวนและต้นไม้นั้นจะมีการออกแบบให้ใช้กับสภาพแวดล้อมดิน หรือพื้นที่ว่างที่สามารถนำมาจัดสวนแบบปกติทั่วไปหรือร่วมกับอุปกรณ์น้ำตก อ่างน้ำ ทั่วไปแล้ว ปัจจุบันได้มีการนำสวนมาจัดร่วมกันสระสปา หรือสระจากุซซี่มากขึ้น เนื่องด้วยผู้ที่ให้บริการในกิจการหรือธุรกิจเกี่ยวกับสปาหรือโรงแรมให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ สดชื่น และดูดื่มด่ำในการผ่อนคลายและพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

สระน้ำนั้นสามารถสร้างได้หลายแบบหลายขนาด ซึ่งสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือสังเกตุพื้นที่ที่คุณต้องการสร้างสระให้ได้เสียก่อน เพราะสระน้ำจะเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุด ต้องสามารถก่อสร้างได้ตามแบบที่คุณการใช้งาน ทั้งขนาด ความจุ ความลึก และความสวยงามทุกอย่างต้องลงตัวอย่างแท้จริง อย่าลืมว่าสระปาหรือสระจากุซซี่นั้นไม่ได้สร้างไว้เพื่อให้มองดูอย่างเดียวด้วยความสวยงามและน่าเล่น ยากที่จะอดใจไหว อีกทั้งเมื่อสร้างอยู่ในสถาบันสปาหรือโรงแรมแล้ว ประโยชน์ใช้สอยของสระสปาหรือสระจากุซซี่เหล่านั้นต้องมาก่อน 

เมื่อได้ระยะของสระที่ต้องการแล้วจากนั้นให้คุณออกแบบบริเวณที่ต้องการปลูกพืช ดอกไม้ หรือวางเครื่องประดับตกแต่งได้ตามความต้องการ ในเรื่องของแนวคิดในการออกแบบสระสปา หรือสระจากุซซี่นั่นมีด้วยกันหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าเป็น ใช้ต้นไม้พุ่มเตี้ยเพื่อสร้างบรรยากาศจากนั้นฉากหลังหรือบริเวณด้านหลัง ให้ใช้ต้นไม้ใหญ่ที่สามารถตัดตกแต่งกิ่งก้านไม่ให้ยื่นยาวออกมาสร้างความรำคาญไม่เป็นระเบียบต่อผู้มาใช้บริการ เพิ่มดอกไม้สีต่างๆหรือเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลจะช่วยเพิ่มความแปลกใหม่หรือเพิ่มสีสันในแต่ละเดือนได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญที่คุณไม่ควรลืมคือควรวางพืชหรือดอกไม้เหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นน้ำหรือว่ายน้ำในสระธรรมชาติจริงๆจะดีที่สุด แน่นอนผู้ที่ต้องการมาใช้บริการสระสปาหรือสระจากุซซี่นั้น ล้วนแต่ต้องการการผ่อนคลายเสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล ฉะนั้นเราสามารถเพิ่มทางเดินต่างๆด้วยเห็นกลม หรือหินแผ่นสกัดสวยงาม หรืออาจจเพิ่มในบริเวณริมสระโดยรอบให้ดูกลมกลืนมากยิ่งขึ้น เก้าอี้นอนอาบแดดหรือรับลมเพื่อสัมผัสกับอากาศที่สดชื่นและไม่ลืมที่จะมีร่มเงาจากหลังคาแซมๆไว้บ้างแต่ไม่ควรปิดจนมิดทั้งสระอาจจะทำให้เสียบรรยากาศได้
เนื่องจากบ้านเราโดยส่วนมากแล้วมีอากาศร้อนเป็นส่วนใหญ่ เจ้าของบ้านที่ต้องการให้บ้านของคุณมีมุมผ่อนคลายและทำกิจกรรมได้เพิ่มมากขึ้น สระสปาหรือสระกุซซี่นั่นดูจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสไตล์การจัดสวนและสระเข้าไว้ด้วยกัน

จัดสวนให้สวยด้วยความเข้าใจ






การจัดสวนให้สวยงามนั้นไม่ใช่การนำสิ่งของใดๆที่เราชอบ เช่น ต้นไม้ ดอกไม้ หิน ทางเดิน หรือวัสดุตกแต่งต่างๆ มาจัดวางรวมๆกันให้เป็นตามที่เราต้องการเท่านั้น การออกแบบจัดสวนสวยจริงๆนั้นทำผู้จัดจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการออกแบบพื้นที่ที่เราจะทำการจัดสวนเสียก่อน โดยเจ้าของหรือผู้ทำการจัดสวนนั้นควรคุ้นเคยกับงานทางด้านการออกแบบ ซึ่งหากเราเป็นผู้ที่ไม่ชำนาญทางด้านการออกแบบมากนัก ในการจัดวางหรือการออกแบบครั้งแรกอาจจะดูยุ่งยาก ติดขัด ไม่เป็นสัดเป็นส่วน ใช้เวลานานผิดปกติ แต่เราสามารถเริ่มออกแบบจัดสวนสวยด้วยการวางขั้นตอนเป็นลําดับดังนี้

1. เข้าใจความต้องการของเจ้าของสถานที่ ถือว่าเป้นข้อมูลที่จำเป็นอย่างยิ่งในกรณีของการออกแบบจัดสวนให้สวยตามความต้องการ หากคุณรู้ถึงความชอบ รสนิยม รวมทั้งงานอดิเรกต่าง ๆ ของสมาชิกในครอบครัวของคุณเองจะทำให้การออกแบบนั้นดูง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อได้ข้อมูลในความชอบนั้นมาแล้วจะทำให้คุณสารรถพิจารณาจากสภาพทั่ว ๆ ไปในการออกแบบได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของสวน สวนที่ต้องการ เช่น  สวนธรรมชาติ สวนญี่ปุ่น หรือสวนนํ้า เป็นต้น ต้องทราบถึงเวลาที่จะใช้ในการดูแลรักษาสวนว่าเข้าบ้านนั้นมีเวลามากน้อยเพียงใด เจ้าของบ้านชอบการทําสวนหรือไม่ เนื่องด้วยสวนแต่ละชนิดนั้นมีวิธีการดูแลรักษาไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ สวนสนามหญ้า หรือสวยกล้วยไม้ เป็นต้น ล้วนแต่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ที่แตกต่างกัน ควรทราบถึงไลฟ์สไตล์หรือลักษณะการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านหลังนั้นว่าต้องการมุมสงบ หรือต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นกีฬา ทำอาหาร จัดกิจกรรมงานเลี้ยงต่างๆ ควรทราบถึงรสนิยมเรื่องสีสัน โทนสีที่ชอบ สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ ชนิดของดอกไม้  และวัสดุอื่น ๆ ที่จะนำมาใช้ว่าชอบแบบใด ประเภทไหน และที่สำคัญคืองบประมาณที่จะใช้จัดสวนนั่นเอง ซึ่งสวนที่สวยและถูกใจนั่นไม่จำเป็นว่าจะต้องแพงหรือใช้ของที่มีราคาสูงจนเกินไป ทั้งที่ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่ามีความรู้และข้อมูลในการใช้วัสดุให้ตรงกับรสนิยมของเจ้าบ้านมากน้อยเพียงใดนั้นเอง 

2. สํารวจสถานที่ เมื่อคุณได้ข้อมูลมากพอสมควรแล้วถึงเวลาที่จะต้องทำการสำรวจพื้นที่ที่เราต้องการออกแบบ โดยต้องใช้หลักในการสำรวจหลักๆดังนี้ สภาพภูมิอากาศ เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้พรรณไม้ได้ถูกต้อง สำรวจดูค่าของแสงสว่าง ทิศทางของลม และอัตราการฝนตกในแต่ละเดือนสามารถใช้เป็นข้อมูลในการระบายนํ้าจากสวนของคุณได้อย่างถูกต้องนั่นเอง จากนั้นให้ดูบริเวณพื้นที่ ควรทราบขนาดของพื้นที่กว้างยาวเท่าไร ความสูงต่ำของพื้นผิว ตรวจสอบสภาพดินว่าเป็นกรด ด่าง ดินเหนียว ดินร่วน หรือดินปนทราย เหมาสำหรับการวางต้นไม้หรือดอกไม้ชนิดใดบ้าง หากต้องการเปลี่ยนแปลงควรวางแผนให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการดูแลรักษาต่อไป 

การออกแบบจัดสวนสวยนั้นจำเป็นจะต้องให้กลมกลืนและเสริมให้อาคารสถานที่นั้นสวยงามเด่นสง่า รวมทั้งเกิดประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่ต้องการออกแบบจัดสวนให้สวยงามนั้นนอกจากด้านทฤษฎีหรือปฏิบัติแล้วจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์อย่างมากเพื่อให้สวนของคุณออกมาเพอร์เฟคและสวยที่สุด